Matteo Carcassi ชายผู้เพิ่มสีสันให้งานเพลงเอทูต (Etude)
มีนักกีตาร์มากมายที่โด่งดังจากการประพันธ์เพลงที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีนักกีตาร์อีกไม่น้อยที่โด่งดังจากการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กและนักเรียน ซึ่งมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่เปี่ยมล้นด้วยความเป็นดนตรี เหล่านี้อาจเป็นนิยามของงานประพันธ์ประเภทเอทูต (Etude) โดยเฉพาะกับผลงานจากนักกีตาร์ชาวอิตาลีที่มีชื่อว่า มัตเตโอ คาร์คาสซี (Matteo Carcassi, 1792-1853)
.
ณ เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี แม้จะเริ่มต้นด้วยการเล่นเปียโน แต่ฝีมือการบรรเลงกีตาร์ทำให้ชื่อเสียงของคาร์คาสซีโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย จนกระทั่งปี 1810 การเดินทางไปยังเยอรมนีในวัย 18 ปี ทำให้คาร์คาสซีประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในฐานะนักกีตาร์ผู้มีฝีมืออันโดดเด่น โดยในระหว่างการตระเวนแสดงดนตรีในเยอรมนี คาร์คาสซีได้พบกับเพื่อนนักกีตาร์ ผู้ที่จะทำให้งานเพลงของเขาไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา ฌอง-อองตวน มีส์ซูนนีเยร์ (Jean-Antoine Meissonnier) นักกีตาร์ชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ในปารีส เขาได้ตีพิมพ์ผลงานหลายชิ้นของคาร์คาสซี รวมถึงการเป็นผู้จัดเรียงหมายเลขโอปุส (Opus) จนสามารถกล่าวได้ว่าหากไม่มีเพื่อนชาวฝรั่งเศสคนนี้ อาจไม่มีคาร์คาสซีก็เป็นได้
.
คาร์คาสซี ย้ายมาลงหลักปักฐานในปารีสช่วงปี 1820 เมืองหลวงซึ่ง ณ เวลานั้น มีการแข่งขันที่สูงมาก ทั้งในด้านการผลิตผลงานเพลงและการแสดงดนตรี และยังเป็นโชคไม่ดีที่คาร์คาสซี เข้ามาในยุคอันรุ่งเรืองของ เฟอร์นันโด คารูลลี (Fernando Carulli) นักกีตาร์ชาวอิตาลี ผู้กำลังโด่งดังในหมู่ชาวปารีสเป็นอย่างสูง ชื่อเสียงของคาร์คาสซีจึงอยู่ใต้เงานักกีตาร์เพื่อนร่วมชาตินานพอสมควร อย่างไรก็ตาม ชีวิตของคาร์คาสซีก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่ตกต่ำ เขายังออกตระเวนแสดงดนตรีอย่างต่อเนื่อง รับสอนดนตรี และรวมถึงการรับเขียนโน้ตกีตาร์บรรเลงประกอบเพลงฝรั่งเศส
.
คาร์คาสซี ออกทัวร์จนถึงปี 1840 ก่อนจะวางมือจากการแสดงดนตรี และเสียชีวิตไปในปี 1853 ด้วยวัย 61 ปี วารสาร Journal des Débats ฉบับวันที่ 20 มกราคม 1853 กล่าวถึงการเสียชีวิตและความสัมพันธ์ที่คาร์คาสซีมีต่อฝรั่งเศส ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมกองทัพฝรั่งเศส เพื่อร่วมรบในสงครามนโปเลียน ตามท่อนหนึ่งของวารสารกล่าวว่า “เขาคือคนของฝรั่งเศส เขาเคยรับใช้ชาติในฐานะทหาร เขารักและหลงใหลในประเทศแห่งนี้”
.
คาร์คาสซี มีลักษณะการบรรเลงกีตาร์ที่น่าสนใจ เขามักไม่ใช้เล็บในการบรรเลง โดยเขาอธิบายไว้ว่า “เพื่อให้ได้โทนเสียงที่นุ่มนวล (Mellow Tone) จำเป็นต้องใช้แรงจากปลายนิ้ว สัมผัสสายในแนวเฉียง และหลีกเลี่ยงการใช้เล็บสัมผัสสาย” หรือจะเป็นการชอบวางนิ้วก้อยมือขวาบนไม้หน้ากีตาร์ คาร์คาสซีได้อธิบายไว้เช่นกันว่า “นิ้วก้อยมือขวาควรยืดออก และวางบนซาวน์บอร์ดในตำแหน่งใกล้กับสายล่างสุด หรือห่างจากสะพานสายเล็กน้อย” โดยเป็นการวางนิ้วเพื่อประคองตำแหน่งมือขวา ปัจจุบันเป็นลักษณะการวางนิ้วที่นิยมในหมู่นักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ (Fingerstyle)
.
ความเป็นครูสอนดนตรีของคาร์คาสซี อาจมีส่วนทำให้เขามองเห็นความต้องการของผู้เรียน อันนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ทรงคุณค่าต่อหลักสูตรการเรียนกีตาร์ Method for the Guitar, Op. 59 (1836) ตำราเรียนซึ่งบรรจุบทเพลงแบบฝึกหัดที่ได้รับการชื่นชมว่ามีทั้งความไพเราะ เรียบง่าย และเล่นได้ทุกวัย หรือจะเป็นงานที่โด่งดังที่สุดของคาร์คาสซีอย่าง 25 Etudes Op. 60 งานประพันธ์เอทูตที่ได้รับการยกย่องว่าสามารถผสมผสานเทคนิคการบรรเลงกีตาร์ เข้ากับดนตรีสไตล์โรแมนติกได้อย่างลงตัว อันนำไปสู่งานเพลงที่มีทั้งความไพเราะ และความสมบูรณ์ด้านเทคนิค จึงไม่แปลกที่ผลงานชิ้นนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เรียนกีตาร์ หรือในหมู่นักกีตาร์มืออาชีพที่ต้องการวัดฝีมือตัวเอง
.
ทว่าความโด่งดังจากบทเพลงเอทูต กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ฝีมือการบรรเลงระดับพรสวรรค์ของคาร์คาสซี ถูกละเลยและถูกด้อยค่า เขาถูกมองว่าเป็นเพียงครูกีตาร์ที่โด่งดังจากการเขียนเพลงให้เด็กเล่น เน้นความเรียบง่าย ดนตรีไม่ซับซ้อน ซึ่งทัศนคติเหล่านี้ทำให้สถานะของคาร์คาสซี ไม่ถูกยอมรับในระดับเดียวกับนักกีตาร์ชื่อดังคนอื่นๆ และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้คนหลงลืมและละเลยผลงานนอกเหนือจากเอทูตของเขา ทั้งๆที่ความเป็นจริง คาร์คาสซีมีผลงานประเภทอื่นอีกหลายชิ้นไม่ว่าจะเป็น Fantaisies, Valses และ Nocturnes
.
ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะถูกละเลยเป็นเพียงแค่ครูกีตาร์ ไม่ใช่นักกีตาร์ที่มีฝีมือเก่งกาจ แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง มุมของความเป็นครู คาร์คาสซีได้บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว เขาได้สร้างสื่อการสอนที่ทรงคุณค่า ได้ยกระดับงานเพลงเอทูตให้ออกมาไพเราะ และมีความเป็นดนตรี และการที่เหล่านักกีตาร์ระดับโลกหยิบยกผลงานเอทูตของเขาขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่าคุณค่าของงานเพลงเอทูตนั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่างานเพลงประเภทอื่นเลยแม้แต่น้อย
.
Writer : Literary Boy
.
สนใจเรียนกีตาร์ : www.ptnoteguitar.com/p/lessons.html
.
สนใจเลี้ยงกาแฟได้ที่ https://www.ptnoteguitar.com/p/keep-us-caffeinated.html?m=1
.
Web : www.ptnoteguitar.com
Chanta Guitar : https://goo.gl/ictyaA
Tel : 092-907-9966, 061-408-6858
.
#สอนกีตาร์ออนไลน์ #สอนกีตาร์คลาสสิก #PTNoteGuitar #classicalguitar #กีตาร์ #เล่นกีตาร์
.
Reference:
[1] http://www.maestros-of-the-guitar.com/matteocarcassi.html
[2] https://tecla.com/matteo-carcassi/matteo-carcassi
[3] https://richterguitar.com/class.../composers/matteo-carcassi
[4] https://cuerdaspulsadas.com/.../matteo-carcassi-pedagogia...
[5] Graham Wade. (2001). A Concise History of the Classical Guitar
มีนักกีตาร์มากมายที่โด่งดังจากการประพันธ์เพลงที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีนักกีตาร์อีกไม่น้อยที่โด่งดังจากการประพันธ์เพลงสำหรับเด็กและนักเรียน ซึ่งมีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่เปี่ยมล้นด้วยความเป็นดนตรี เหล่านี้อาจเป็นนิยามของงานประพันธ์ประเภทเอทูต (Etude) โดยเฉพาะกับผลงานจากนักกีตาร์ชาวอิตาลีที่มีชื่อว่า มัตเตโอ คาร์คาสซี (Matteo Carcassi, 1792-1853).
ณ เมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี แม้จะเริ่มต้นด้วยการเล่นเปียโน แต่ฝีมือการบรรเลงกีตาร์ทำให้ชื่อเสียงของคาร์คาสซีโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย จนกระทั่งปี 1810 การเดินทางไปยังเยอรมนีในวัย 18 ปี ทำให้คาร์คาสซีประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในฐานะนักกีตาร์ผู้มีฝีมืออันโดดเด่น โดยในระหว่างการตระเวนแสดงดนตรีในเยอรมนี คาร์คาสซีได้พบกับเพื่อนนักกีตาร์ ผู้ที่จะทำให้งานเพลงของเขาไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา ฌอง-อองตวน มีส์ซูนนีเยร์ (Jean-Antoine Meissonnier) นักกีตาร์ชาวฝรั่งเศส ผู้เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ในปารีส เขาได้ตีพิมพ์ผลงานหลายชิ้นของคาร์คาสซี รวมถึงการเป็นผู้จัดเรียงหมายเลขโอปุส (Opus) จนสามารถกล่าวได้ว่าหากไม่มีเพื่อนชาวฝรั่งเศสคนนี้ อาจไม่มีคาร์คาสซีก็เป็นได้
.
คาร์คาสซี ย้ายมาลงหลักปักฐานในปารีสช่วงปี 1820 เมืองหลวงซึ่ง ณ เวลานั้น มีการแข่งขันที่สูงมาก ทั้งในด้านการผลิตผลงานเพลงและการแสดงดนตรี และยังเป็นโชคไม่ดีที่คาร์คาสซี เข้ามาในยุคอันรุ่งเรืองของ เฟอร์นันโด คารูลลี (Fernando Carulli) นักกีตาร์ชาวอิตาลี ผู้กำลังโด่งดังในหมู่ชาวปารีสเป็นอย่างสูง ชื่อเสียงของคาร์คาสซีจึงอยู่ใต้เงานักกีตาร์เพื่อนร่วมชาตินานพอสมควร อย่างไรก็ตาม ชีวิตของคาร์คาสซีก็ไม่ได้อยู่ในจุดที่ตกต่ำ เขายังออกตระเวนแสดงดนตรีอย่างต่อเนื่อง รับสอนดนตรี และรวมถึงการรับเขียนโน้ตกีตาร์บรรเลงประกอบเพลงฝรั่งเศส
.
คาร์คาสซี ออกทัวร์จนถึงปี 1840 ก่อนจะวางมือจากการแสดงดนตรี และเสียชีวิตไปในปี 1853 ด้วยวัย 61 ปี วารสาร Journal des Débats ฉบับวันที่ 20 มกราคม 1853 กล่าวถึงการเสียชีวิตและความสัมพันธ์ที่คาร์คาสซีมีต่อฝรั่งเศส ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมกองทัพฝรั่งเศส เพื่อร่วมรบในสงครามนโปเลียน ตามท่อนหนึ่งของวารสารกล่าวว่า “เขาคือคนของฝรั่งเศส เขาเคยรับใช้ชาติในฐานะทหาร เขารักและหลงใหลในประเทศแห่งนี้”
.
คาร์คาสซี มีลักษณะการบรรเลงกีตาร์ที่น่าสนใจ เขามักไม่ใช้เล็บในการบรรเลง โดยเขาอธิบายไว้ว่า “เพื่อให้ได้โทนเสียงที่นุ่มนวล (Mellow Tone) จำเป็นต้องใช้แรงจากปลายนิ้ว สัมผัสสายในแนวเฉียง และหลีกเลี่ยงการใช้เล็บสัมผัสสาย” หรือจะเป็นการชอบวางนิ้วก้อยมือขวาบนไม้หน้ากีตาร์ คาร์คาสซีได้อธิบายไว้เช่นกันว่า “นิ้วก้อยมือขวาควรยืดออก และวางบนซาวน์บอร์ดในตำแหน่งใกล้กับสายล่างสุด หรือห่างจากสะพานสายเล็กน้อย” โดยเป็นการวางนิ้วเพื่อประคองตำแหน่งมือขวา ปัจจุบันเป็นลักษณะการวางนิ้วที่นิยมในหมู่นักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ (Fingerstyle)
.
ความเป็นครูสอนดนตรีของคาร์คาสซี อาจมีส่วนทำให้เขามองเห็นความต้องการของผู้เรียน อันนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่ทรงคุณค่าต่อหลักสูตรการเรียนกีตาร์ Method for the Guitar, Op. 59 (1836) ตำราเรียนซึ่งบรรจุบทเพลงแบบฝึกหัดที่ได้รับการชื่นชมว่ามีทั้งความไพเราะ เรียบง่าย และเล่นได้ทุกวัย หรือจะเป็นงานที่โด่งดังที่สุดของคาร์คาสซีอย่าง 25 Etudes Op. 60 งานประพันธ์เอทูตที่ได้รับการยกย่องว่าสามารถผสมผสานเทคนิคการบรรเลงกีตาร์ เข้ากับดนตรีสไตล์โรแมนติกได้อย่างลงตัว อันนำไปสู่งานเพลงที่มีทั้งความไพเราะ และความสมบูรณ์ด้านเทคนิค จึงไม่แปลกที่ผลงานชิ้นนี้จะเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เรียนกีตาร์ หรือในหมู่นักกีตาร์มืออาชีพที่ต้องการวัดฝีมือตัวเอง
.
ทว่าความโด่งดังจากบทเพลงเอทูต กลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ฝีมือการบรรเลงระดับพรสวรรค์ของคาร์คาสซี ถูกละเลยและถูกด้อยค่า เขาถูกมองว่าเป็นเพียงครูกีตาร์ที่โด่งดังจากการเขียนเพลงให้เด็กเล่น เน้นความเรียบง่าย ดนตรีไม่ซับซ้อน ซึ่งทัศนคติเหล่านี้ทำให้สถานะของคาร์คาสซี ไม่ถูกยอมรับในระดับเดียวกับนักกีตาร์ชื่อดังคนอื่นๆ และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้คนหลงลืมและละเลยผลงานนอกเหนือจากเอทูตของเขา ทั้งๆที่ความเป็นจริง คาร์คาสซีมีผลงานประเภทอื่นอีกหลายชิ้นไม่ว่าจะเป็น Fantaisies, Valses และ Nocturnes
.
ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะถูกละเลยเป็นเพียงแค่ครูกีตาร์ ไม่ใช่นักกีตาร์ที่มีฝีมือเก่งกาจ แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง มุมของความเป็นครู คาร์คาสซีได้บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว เขาได้สร้างสื่อการสอนที่ทรงคุณค่า ได้ยกระดับงานเพลงเอทูตให้ออกมาไพเราะ และมีความเป็นดนตรี และการที่เหล่านักกีตาร์ระดับโลกหยิบยกผลงานเอทูตของเขาขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ได้สะท้อนให้เห็นแล้วว่าคุณค่าของงานเพลงเอทูตนั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่างานเพลงประเภทอื่นเลยแม้แต่น้อย
.
Writer : Literary Boy
.
สนใจเรียนกีตาร์ : www.ptnoteguitar.com/p/lessons.html
.
สนใจเลี้ยงกาแฟได้ที่ https://www.ptnoteguitar.com/p/keep-us-caffeinated.html?m=1
.
Web : www.ptnoteguitar.com
Chanta Guitar : https://goo.gl/ictyaA
Tel : 092-907-9966, 061-408-6858
.
#สอนกีตาร์ออนไลน์ #สอนกีตาร์คลาสสิก #PTNoteGuitar #classicalguitar #กีตาร์ #เล่นกีตาร์
.
Reference:
[1] http://www.maestros-of-the-guitar.com/matteocarcassi.html
[2] https://tecla.com/matteo-carcassi/matteo-carcassi
[3] https://richterguitar.com/class.../composers/matteo-carcassi
[4] https://cuerdaspulsadas.com/.../matteo-carcassi-pedagogia...
[5] Graham Wade. (2001). A Concise History of the Classical Guitar